น้ำเกลือทางการแพทย์

กรกฎาคม 24, 2025

น้ำเกลือทางการแพทย์: ความสำคัญ ประเภท และการใช้งานทางคลินิก

น้ำเกลือทางการแพทย์ถือเป็นหนึ่งในสารละลายพื้นฐานและสำคัญที่สุดที่ใช้ในวงการแพทย์มายาวนาน ด้วยคุณสมบัติที่ใกล้เคียงกับของเหลวในร่างกายมนุษย์ ทำให้น้ำเกลือมีบทบาทสำคัญในการรักษาและฟื้นฟูสมดุลของร่างกายในหลายภาวะ โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่มีภาวะขาดน้ำหรือสูญเสียเกลือแร่จากสาเหตุต่าง ๆ เช่น ท้องเสียรุนแรง อาเจียน หรือเสียเลือดจากอุบัติเหตุ ความสำคัญของน้ำเกลือในวงการแพทย์ การทดแทนน้ำและอิเล็กโทรไลต์: น้ำเกลือทางการแพทย์ช่วยทดแทนการสูญเสียน้ำและเกลือแร่ในร่างกาย เช่น ในกรณีที่ผู้ป่วยมีภาวะขาดน้ำจากอาการท้องเสีย อาเจียน หรือมีไข้สูง การรักษาสมดุลของร่างกาย: น้ำเกลือทางการแพทย์มีความเข้มข้นที่เหมาะสมกับร่างกายมนุษย์ ช่วยรักษาความดันออสโมติก (osmotic pressure) และสมดุลของสารน้ำระหว่างเซลล์ ตัวกลางในการนำส่งยา: น้ำเกลือทางการแพทย์เป็นตัวทำละลายและตัวกลางในการนำส่งยาเข้าสู่ร่างกาย โดยเฉพาะยาที่ให้ทางหลอดเลือดดำ การทำความสะอาดในหัตถการทางการแพทย์: ใช้ในการล้างแผล ชะล้างอวัยวะ หรือทำความสะอาดเครื่องมือทางการแพทย์ การสร้างสภาวะที่เหมาะสมสำหรับเซลล์และเนื้อเยื่อ: น้ำเกลือทางการแพทย์มีคุณสมบัติที่เข้ากันได้กับเซลล์และเนื้อเยื่อมนุษย์ (biocompatible) ทำให้เหมาะกับการใช้ในการรักษาและฟื้นฟูเนื้อเยื่อ ประเภทของน้ำเกลือทางการแพทย์ น้ำเกลือทางการแพทย์เป็นสารละลายที่มีส่วนประกอบหลัก คือโซเดียมคลอไรด์และน้ำ ซึ่งมีหลายประเภทที่ใช้ในสถานการณ์และวัตถุประสงค์ทางการแพทย์แตกต่างกัน โดยแต่ละชนิดมีคุณสมบัติและการใช้งานเฉพาะตัวที่ช่วยรักษาผู้ป่วยในภาวะต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม Normal Saline Solution (NSS) น้ำเกลือทางการแพทย์ NSS หรือน้ำเกลือธรรมดา เป็นสารละลายโซเดียมคลอไรด์ความเข้มข้น 0.9% หรือ 9 กรัมต่อลิตร สารละลายนี้มี osmolarity ประมาณ 308 mOsm/L ซึ่งใกล้เคียงกับพลาสมาในเลือด (285-295 mOsm/L) จึงเรียกว่าสารละลายไอโซโทนิก ใช้เป็นของเหลวทดแทนเมื่อผู้ป่วยขาดน้ำหรือมีภาวะเลือดจาง เช่น ในกรณีท้องเสียรุนแรง หรือภาวะขาดน้ำจากการผ่าตัด น้ำเกลือทางการแพทย์ชนิดนี้สามารถให้ทางหลอดเลือดดำเพื่อเพิ่มปริมาตรเลือดและรักษาสมดุลของเหลวในร่างกายได้อย่างปลอดภัย แต่หากให้มากเกินไปอาจทำให้เกิดภาวะบวมน้ำหรือกรดเมแทบอลิกได้ หรือจะใช้เจือจางยาสำหรับการให้ทางหลอดเลือดดำ และใช้ในการทำความสะอาดบาดแผลเนื่องจากไม่ทำลายเซลล์เนื้อเยื่อก็ได้ Ringer’s Lactate Solution (RL) น้ำเกลือทางการแพทย์ที่มีส่วนผสมของเกลือแร่หลายชนิด เช่น โซเดียมคลอไรด์ โพแทสเซียม แคลเซียม และแลคเตต ซึ่งช่วยปรับสมดุลค่ากรดและเบสในร่างกายได้ดีขึ้นกว่าน้ำเกลือธรรมดา เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่สูญเสียของเหลวและแร่ธาตุเหล่านี้จำนวนมาก ทั้งจากการบาดเจ็บหรือผ่าตัดใหญ่ อีกเหตุผลหนึ่งคือการรักษาความสมดุลกรด-เบสในร่างกายเพราะ แลคเตตในสารละลายจะถูกเปลี่ยนเป็นไบคาร์บอเนตในร่างกาย ช่วยลดภาวะกรดเกินในร่างกายได้ Dextrose Solutions สารละลายที่มีน้ำตาลเดกซ์โทรสผสมอยู่ในน้ำหรือในน้ำเกลือทางการแพทย์ โดยทั่วไปมีความเข้มข้น 5% ใช้เป็นแหล่งพลังงานสำหรับผู้ป่วยที่ไม่สามารถรับประทานอาหารได้ หรือมีภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ นอกจากนี้น้ำเกลือทางการแพทย์ชนิดนี้ยังใช้ร่วมกับน้ำเกลือธรรมดาในรูปแบบผสม เช่น 5% Dextrose in NSS เพื่อให้ทั้งพลังงานและเกลือแร่แก่ร่างกาย Hypertonic และ Hypotonic Solutions สารละลายไฮเปอร์โทนิกมีความเข้มข้นสูงของเกลือกว่าเลือด จึงดึงน้ำออกจากเซลล์เข้าสู่หลอดเลือด ทำให้ลดบวมน้ำในสมองหรือเพิ่มความดันเลือด ส่วนสารละลายไฮโปโทนิกมีความเข้มข้นต่ำของเกลือกว่าเลือด ทำให้น้ำเข้าเซลล์มากขึ้น เหมาะกับผู้ป่วยที่ขาดน้ำในเซลล์ แต่ต้องระวังการใช้เพราะอาจทำให้เซลล์บวมน้ำเกินไป การเลือกใช้น้ำเกลือทางการแพทย์ให้เหมาะสมกับผู้ป่วย ภาวะขาดน้ำ (Dehydration)
ผู้ป่วยที่มีสภาวะนี้ แพทย์มักเลือกใช้น้ำเกลือทางการแพทย์ชนิดไอโซโทนิก เช่น Normal Saline Solution (NSS) หรือ Ringer’s Lactate (RL) เพื่อทดแทนของเหลวและเกลือแร่ที่สูญเสียไป โดยน้ำเกลือทางการแพทย์ RL จะเหมาะกับผู้ป่วยที่ต้องการฟื้นฟูสมดุลกรดเบสด้วย เนื่องจากมีแลคเตตช่วยปรับสมดุลกรดในร่างกาย ภาวะช็อกจากการเสียเลือด (Hemorrhagic Shock)
การให้น้ำเกลือทางการแพทย์ NSS หรือ RL จะช่วยเพิ่มปริมาตรเลือดและรักษาความดันโลหิตให้คงที่ได้อย่างรวดเร็ว น้ำเกลือทางการแพทย์เหล่านี้เป็นสารละลายไอโซโทนิกที่ไม่ทำให้เซลล์บวมน้ำหรือฝ่อลง จึงปลอดภัยในสถานการณ์ฉุกเฉิน ภาวะโซเดียมในเลือดต่ำ (Hyponatremia)
ในสภาวะนี้ แพทย์จะระมัดระวังการเลือกใช้สารละลายที่มีความเข้มข้นของโซเดียมเหมาะสม โดยอาจจะเลือกใช้น้ำเกลือทางการแพทย์ NSS หรือ 3% NaCl (กรณีรุนแรง) เพื่อเพิ่มระดับโซเดียมในเลือดและป้องกันการเปลี่ยนแปลงความเข้มข้นของโซเดียมในเลือดอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนได้ ภาวะโซเดียมในเลือดสูง (Hypernatremia)
ผู้ป่วยที่มีสภาวะนี้จำเป็นต้องได้รับน้ำเกลือทางการแพทย์ชนิดไฮโปโทนิก อย่างน้ำเกลือ D5W หรือ 0.45% NaCl โดยน้ำเกลือทางการแพทย์ต้องมีความเข้มข้นต่ำ หรือสารละลายเดกซ์โทรส เพื่อช่วยเจือจางระดับโซเดียมในเลือดและฟื้นฟูสมดุลน้ำในเซลล์ แต่ต้องให้ด้วยความระมัดระวังเพื่อป้องกันภาวะเซลล์บวมน้ำเกินไป ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ (Hypoglycemia)
ผู้ป่วยที่มีสภาวะนี้จะต้องได้รับสารละลายที่มีน้ำตาลเดกซ์โทรสผสม เช่น น้ำเกลือทางการแพทย์ 5% Dextrose in Water (5% D/W) หรือ 5% Dextrose in NSS เพื่อเติมพลังงานและน้ำตาลในเลือดอย่างรวดเร็ว และป้องกันภาวะน้ำตาลต่ำที่อาจเป็นอันตรายต่อสมอง ภาวะเลือดเป็นกรด (Metabolic Acidosis)
น้ำเกลือทางการแพทย์ RL ถือเป็นตัวเลือกที่ดี เพราะแลคเตตในสารละลายจะถูกเปลี่ยนเป็นไบคาร์บอเนตในร่างกาย ช่วยปรับสมดุลกรดและเบสให้ดีขึ้น ช่วยลดภาวะเลือดเป็นกรดได้ การเตรียมผู้ป่วยก่อนผ่าตัด
ส่วนใหญ่มักเลือกให้น้ำเกลือทางการแพทย์ที่มีเดกซ์โทรสผสม อย่าง 5% Dextrose in NSS หรือ 5% Dextrose in 1/3 NSS เพื่อให้พลังงานและชดเชยของเหลวในร่างกาย เนื่องจากผู้ป่วยอาจงดน้ำงดอาหารก่อนผ่าตัด และช่วยให้การรักษาอื่น ๆ เช่น การให้ยาเป็นไปอย่างสะดวก   การประยุกต์ใช้น้ำเกลือทางการแพทย์  การล้างแผลและทำความสะอาดบาดแผล น้ำเกลือทางการแพทย์ปราศจากเชื้อ NSS ที่มีความเข้มข้น 0.9% เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับใช้ล้างแผล เนื่องจากเป็นสารละลายไอโซโทนิกที่มีความเข้มข้นสมดุลกับน้ำในเซลล์ร่างกาย จึงไม่ทำลายเซลล์เนื้อเยื่อใหม่ ไม่ก่อให้เกิดความแสบหรือระคายเคืองบริเวณแผล และยังช่วยชะล้างสิ่งปนเปื้อน แบคทีเรีย และเศษสิ่งสกปรกออกจากแผลได้อย่างปลอดภัย น้ำเกลือทางการแพทย์ชนิดนี้ผ่านกระบวนการฆ่าเชื้ออย่างเข้มงวด ทำให้มั่นใจได้ว่าไม่ก่อให้เกิดการติดเชื้อเมื่อใช้ล้างแผล โดยเฉพาะแผลบาดเจ็บทั่วไป แผลถลอก หรือแผลผ่าตัดที่ต้องการการดูแลอย่างอ่อนโยน การล้างจมูกและไซนัส น้ำเกลือทางการแพทย์ที่ใช้ล้างจมูกและไซนัส ต้องเป็นน้ำเกลือ NSS ที่ปราศจากเชื้อ เพราะจะช่วยชะล้างสิ่งสกปรกและเมือกที่อุดตันในโพรงจมูก ทำให้บรรเทาอาการคัดจมูก ลดน้ำมูกไหล ลดการอักเสบของเยื่อบุโพรงจมูกและไซนัส และช่วยลดโอกาสการติดเชื้อในโพรงไซนัสได้อย่างมีประสิทธิภาพ การล้างจมูกด้วยน้ำเกลือทางการแพทย์จะช่วยให้ระบบทางเดินหายใจสะอาดขึ้นและทำงานได้ดีขึ้น ป้องกันการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ โดยไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองหรือแสบ การบ้วนปากและการดูแลช่องปาก น้ำเกลือทางการแพทย์ปราศจากเชื้อนับเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ช่วยลดแบคทีเรียในช่องปาก ลดการอักเสบของเหงือกและเนื้อเยื่อในช่องปาก บรรเทาอาการเจ็บคอ บรรเทาอาการแผลในปาก และช่วยทำความสะอาดช่องปากโดยไม่ทำลายเนื้อเยื่ออ่อน น้ำเกลือทางการแพทย์ชนิดนี้ไม่ใส่วัตถุกันเสีย จึงเหมาะสำหรับผู้ที่แพ้สารเคมี และสามารถใช้ได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่ทำให้เกิดการระคายเคือง การใช้ในการล้างตา น้ำเกลือทางการแพทย์ NSS ที่ปราศจากเชื้อ เป็นสารละลายที่เหมาะสมที่สุดสำหรับใช้ล้างตา เนื่องจากมีความเข้มข้นไอโซโทนิกที่สมดุลกับน้ำตา จึงไม่ทำให้เกิดการระคายเคืองหรือแสบตา ช่วยชะล้างสิ่งแปลกปลอม ฝุ่น หรือสารเคมีที่อาจเข้าตาได้อย่างปลอดภัย อย่างไรก็ตามควรใช้เฉพาะน้ำเกลือทางการแพทย์ปราศจากเชื้อที่ผ่านการฆ่าเชื้ออย่างถูกต้องเท่านั้น ไม่ควรใช้น้ำเกลือที่ไม่ได้ผ่านการฆ่าเชื้อหรือทำเอง เพราะอาจมีเชื้อโรคปนเปื้อนและก่อให้เกิดการติดเชื้อในตาได้   สรุป น้ำเกลือทางการแพทย์เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยรักษาสมดุลของน้ำและเกลือแร่ในร่างกาย ฟื้นฟูพลังงาน และรองรับการรักษาอื่น ๆ ได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ซึ่งการเลือกใช้น้ำเกลือทางการแพทย์ให้เหมาะสมกับสภาวะของผู้ป่วยแต่ละราย ต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับคุณสมบัติ ข้อบ่งใช้ และข้อควรระวังของน้ำเกลือแต่ละประเภท ดังนั้นก่อนตัดสินใจเลือกใช้น้ำเกลือ จึงควรปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้ง เพื่อประสิทธิภาพและความปลอดภัยที่สุด   ข้อมูลอ้างอิง   https://shorturl.at/fu85W https://www.phyathai.com/th/article/2731-%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%88%E0%B8%A1%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%9A%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%86_%E0%B8%81%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B9%80%E0%B8%81 https://www.intouchmedicare.com/sodium-hloride-solution-for-intravenous-iv-drip http://medinfo2.psu.ac.th/~webadm/rx/upload_rx_detail/RX_DETAIL_20171214_190557.pdf https://hdmall.co.th/blog/c/saline-solution-types-and-uses/ https://health.kapook.com/view115081.html https://www.bumrungrad.com/th/health-blog/august-2019/oral-rehydration-salt https://mediprosupply.co.th/blog/detail/iv-set https://www.bedee.com/articles/wellness/saline https://www.anblab.com/2015/12/wound-irrigation-th/ https://shorturl.at/sHhKM https://www.exta.co.th/saline/ https://www.eucerin.co.th/about-skin/basic-skin-knowledge/saline
อ่านเพิ่มเติม
กรกฎาคม 24, 2025
น้ำเกลือ จากโรงพยาบาลถึงบ้าน

น้ำเกลือ : จากโรงพยาบาลถึงบ้าน – คู่มือฉบับสมบูรณ์ที่ควรรู้

น้ำเกลือเป็นสารละลายที่มีประโยชน์หลากหลายทั้งในด้านการแพทย์ ตลอดจนการใช้งานในครัวเรือน ทั้งช่วยทำความสะอาด กำจัดคราบและกลิ่นไม่พึงประสงค์ รวมถึงช่วยฟื้นฟูเสื้อผ้าและผ้าม่านอย่างปลอดภัยและประหยัด อีกทั้งยังเป็นทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและลดการใช้สารเคมีที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้เป็นอย่างดี ซึ่งน้ำเกลือมีหลายประเภท แต่ละประเภทต่างมีส่วนประกอบและความเข้มข้นที่แตกต่างกัน น้ำเกลือทางการแพทย์ น้ำเกลือทางการแพทย์ มีบทบาทสำคัญทั้งในการให้สารน้ำทางเส้นเลือดและการดูแลบาดแผล น้ำเกลือล้างแผล (Normal Saline 0.9%) เป็นตัวช่วยที่ปลอดภัย ไม่ระคายเคือง ใช้ได้กับทุกประเภทของแผล ช่วยให้แผลสะอาด ป้องกันการติดเชื้อ และส่งเสริมการหายของแผลอย่างมีประสิทธิภาพ น้ำเกลือสำหรับให้ทางเส้นเลือด :  น้ำเกลือชนิดที่ให้ผ่านเส้นเลือด (Intravenous Infusion) มีหลายประเภท แต่ละชนิดออกแบบมาเพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะ โดยประเภทที่นิยมใช้ในปัจจุบัน ได้แก่ 1.น้ำเกลือ NSS ที่มีความเข้มข้น 0.9% Sodium Chloride แพทย์นิยมใช้บำรุงน้ำหล่อเลี้ยงร่างกาย ชดเชยการสูญเสียน้ำ เลือด และเกลือแร่ให้กับผู้ป่วย 2.รวมถึงช่วยเพิ่มปริมาณเลือดในภาวะขาดน้ำหรือความดันต่ำด้วยน้ำเกลือ RL ที่มีทั้งโซเดียม โพแทสเซียม แคลเซียม และแลคเตท เหมาะสำหรับใช้ช่วยปรับสมดุลกรดด่างในร่างกาย หรือรักษาอาการภาวะช็อกจากการเสียเลือด หรือท้องเสียรุนแรง 3.น้ำเกลือ D5S เป็นน้ำเกลือผสมกลูโคส 5% เหมาะสำหรับใช้ให้พลังงานและรักษาระดับน้ำตาลในเลือดในผู้ป่วยที่มีภาวะขาดพลังงาน น้ำเกลือล้างแผล (Normal Saline ) :  น้ำเกลือล้างแผลเป็นสารละลายโซเดียมคลอไรด์ (NaCl) ที่มีความเข้มข้น 0.9% ซึ่งเรียกว่า ไอโซโทนิก (Isotonic solution) หมายถึงมีความเข้มข้นเท่ากับของเหลวภายในเซลล์ร่างกายมนุษย์ จึงไม่ทำให้เกิดอาการแสบหรือระคายเคืองเมื่อสัมผัสกับแผล แตกต่างจากน้ำยาฆ่าเชื้ออื่น ๆ แอลกอฮอล์หรือไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ที่อาจทำลายเนื้อเยื่อและทำให้แสบแผล อีกทั้งน้ำเกลือล้างแผลยังไม่รบกวนกระบวนการสมานแผล ไม่ทำลายเซลล์สร้างใหม่ที่กำลังซ่อมแซมเนื้อเยื่อ สามารถใช้ได้กับเด็ก ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ รวมถึงใช้กับแผลสด แผลถลอก หรือแผลจากของมีคมบาดที่ไม่ลึกอีกด้วย น้ำเกลือทางการแพทย์  น้ำเกลือล้างจมูก:  การล้างจมูกด้วยน้ำเกลือเป็นวิธีง่าย ๆ ที่ช่วยดูแลสุขภาพทางเดินหายใจอย่างได้ผล เป็นกิจกรรมที่เหมาะจะทำเป็นประจำทุกวัน โดยเฉพาะในผู้ที่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีฝุ่น มลพิษ หรือมีปัญหาภูมิแพ้จมูกเรื้อรัง เพียงแต่น้ำเกลือที่ใช้สำหรับล้างจมูก ต้องมีคุณสมบัติเฉพาะ เพื่อให้ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการทำความสะอาดโพรงจมูกโดยไม่ทำให้ระคายเคืองหรือเสี่ยงติดเชื้อ โดยต้องผลิตในสภาวะปลอดเชื้อและผ่านกระบวนการฆ่าเชื้อที่ได้มาตรฐาน มีความเข้มข้น 0.9% และต้องมีค่า pH ใกล้เคียงกับร่างกาย ประมาณ 5.5 ถึง 6.5 ใส ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ไม่มีสารกันเสีย หรือสารเคมีอื่นเจือปน น้ำเกลือสำหรับกลั้วคอและช่องปาก:  น้ำเกลือยังสามารถใช้ทำความสะอาดคอและช่องปากได้เช่นกัน เนื่องจากน้ำเกลือจะช่วยลดจำนวนแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดกลิ่นปากและฟันผุ อีกทั้งยังบรรเทาอาการเจ็บคอและรักษาแผลในช่องปากได้เช่นกัน โดยเฉพาะแผลร้อนใน หรือแผลจากการกัดกระพุ้งแก้ม น้ำเกลือในอาหารและการถนอมอาหาร  น้ำเกลือในการทำอาหาร:  น้ำเกลือ คือสารละลายของเกลือในน้ำที่มีความเข้มข้นแตกต่างกัน ใช้ในหลายขั้นตอนของการทำอาหารเพื่อประโยชน์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการแช่ผักหรือผลไม้ เพื่อดึงสารพิษ สารเคมี และสิ่งสกปรกออก ทำให้ปลอดภัยต่อการบริโภค ถนอมสีและรสชาติของผักให้สดใหม่ อีกทั้งน้ำเกลือยังใช้ในการหมักเนื้อสัตว์ เพื่อดึงความคาวออก ทำให้เนื้อมีรสชาติอร่อยขึ้น เนื้อมีความนุ่ม ชุ่มชื้น ไม่แห้งกระด้าง การรักษาคุณค่าทางโภชนาการ:  น้ำเกลือสามารถใช้ลวกผัก เพื่อช่วยรักษาคลอโรฟิลล์ แร่ธาตุและวิตามินในผัก ทำให้ผักไม่ซีดหรือเปลี่ยนสีเร็ว ช่วยให้ผักยังคงความสดและคุณค่าทางโภชนาการไว้ได้ดี อีกทั้งยังนิยมใช้ในกระบวนการดองหรือหมักอาหาร เพื่อยับยั้งการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ที่ทำให้อาหารเน่าเสีย ทำให้อาหารเก็บได้นานขึ้นโดยยังคงคุณค่าทางโภชนาการ น้ำเกลือเพื่อความงาม น้ำเกลือในผลิตภัณฑ์ดูแลผิว:  indication เช็คล้างทำความสะอาดหัวสิว น้ำเกลือที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวมักมีความเข้มข้นใกล้เคียงกับสารละลายเกลือในร่างกายมนุษย์ (ประมาณ 0.9%) และมีค่า pH ที่เหมาะสมกับผิว (ประมาณ 5.5 ถึง 6.5) ซึ่งใกล้เคียงกับค่า pH ธรรมชาติของผิวหนัง ทำให้น้ำเกลือมีความอ่อนโยน ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองหรือทำลายเกราะป้องกันผิว ที่สำคัญ น้ำเกลือจะไม่มีสารกันเสีย สี น้ำหอม หรือแอลกอฮอล์ จึงเหมาะกับผิวบอบบาง แพ้ง่าย และผู้ที่มีอาการระคายเคือง การแก้ปัญหาผิวด้วยน้ำเกลือธรรมชาติ: indication ล้างแผล น้ำเกลือมีแร่ธาตุบางชนิด โดยเฉพาะแมกนีเซียม ที่ช่วยลดการอักเสบของผิว จึงอาจช่วยบรรเทาอาการผิวหนังบางชนิด เช่น กลากหรือสะเก็ดเงินได้ อีกทั้งยังใช้ดีท็อกซ์ผิวโดยดูดซับสารพิษและแบคทีเรียที่ผิวหนัง ทำให้ผิวอ่อนเยาว์และเปล่งปลั่ง การใช้น้ำเกลือในบ้าน  น้ำเกลือเพื่อทำความสะอาด: indication ล้างทำความสะอาดคอนนแทคเลนส์ น้ำเกลือที่มีความเข้มข้นประมาณ 0.9% เป็นสารละลายที่มีคุณสมบัติช่วยลดการติดเชื้อและฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ดี โดยไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง จึงนิยมนำมาใช้ทำความสะอาดในหลายบริเวณของบ้าน แต่ในพบได้บ่อยมาก ๆ จะใช้สำหรับล้างคอนแทคเลนส์ เพื่อชำระฝุ่นและสิ่งสกปรก ทดแทนการใช้น้ำยาล้างคอนแทคเลนส์ เนื่องจากมีราคาถูกกว่า น้ำเกลือกำจัดคราบและกลิ่น:  น้ำเกลือมีฤทธิ์ช่วยขจัดคราบสกปรกและกลิ่นไม่พึงประสงค์ในบ้านได้หลายรูปแบบ จึงมีหลายคนที่หันมาใช้น้ำเกลือเพื่อกำจัดคราบฝังแน่นบนภาชนะและเครื่องใช้ ดับกลิ่นเหม็นในท่อน้ำและอ่างล้าง และลบคราบน้ำหรือรอยด่างบนเฟอร์นิเจอร์ไม้ การใช้น้ำเกลือในการซักผ้า: น้ำเกลือช่วยฟื้นฟูและรักษาสีผ้าให้สดใส พร้อมทั้งช่วยขจัดคราบสกปรกได้ดี จึงนิยมนำใช้สำหรับแช่ผ้าม่านหรือพรม เพื่อช่วยขจัดความหม่นหมองและรอยด่าง ทำให้ผ้าดูใหม่ขึ้น   ข้อควรระมัดระวังและผลข้างเคียงจากการใช้น้ำเกลือ  ปริมาณเกลือที่เหมาะสมในแต่ละการใช้งาน  น้ำเกลือที่ใช้ทางการแพทย์จะต้องมีความเข้มข้นของเกลือที่เหมาะสมกับสภาพร่างกาย โดยทั่วไปน้ำเกลือที่มีความเข้มข้นเท่ากับเกลือในเลือด (ประมาณ 0.9% NSS) เป็นมาตรฐานที่ใช้กันมากที่สุด เพื่อรักษาสมดุลของเกลือแร่ในร่างกาย ในเด็กเล็ก ควรหลีกเลี่ยงน้ำเกลือที่มีความเข้มข้นสูง เช่น NSS แบบปกติ แต่ควรเลือกน้ำเกลือที่มีความเข้มข้นต่ำกว่า เช่น 0.3% เพื่อป้องกันผลข้างเคียงจากเกลือเข้มข้นเกินไป การให้น้ำเกลือควรให้ในปริมาณและความเร็วที่เหมาะสม โดยไม่ควรให้เร็วหรือมากเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดภาวะน้ำเกิน หรือน้ำคั่งในปอดได้ สำหรับผู้ป่วยที่มีภาวะขาดน้ำรุนแรงหรือช็อก อาจจำเป็นต้องให้เร็วในช่วงแรก แต่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด   สัญญาณอันตรายจากการใช้น้ำเกลือไม่ถูกวิธี  อาการปวด บวม หรือแดงบริเวณที่ให้น้ำเกลือ อาจบ่งชี้ถึงการอักเสบหรือเส้นเลือดดำอักเสบ อาการวิงเวียนศีรษะ หนาวสั่น ไข้ หรือรู้สึกไม่สบาย อาจเป็นสัญญาณของการแพ้น้ำเกลือหรือการติดเชื้อ อาการบวมตามร่างกาย หายใจหอบเหนื่อย หรือเสียงกรอบแกรบในปอด แสดงถึงภาวะน้ำคั่งในปอด ซึ่งเป็นภาวะฉุกเฉิน อาการแพ้ เช่น ผื่นแดง คัน หน้าบวม ปากบวม หายใจลำบาก กล้ามเนื้อกระตุก หรือภาวะชัก ต้องรีบแจ้งแพทย์ทันที ความดันโลหิตสูง ภาวะโซเดียมในเลือดสูง หรือความผิดปกติของเกลือแร่ในเลือด อาจเกิดจากการให้น้ำเกลือมากเกินไปหรือไม่เหมาะสม อุณหภูมิร่างกายต่ำ หรือเกิดลิ่มเลือดในหลอดเลือด กลุ่มที่ควรระวังเป็นพิเศษ  เด็กเล็ก เนื่องจากระบบการควบคุมเกลือแร่และน้ำในร่างกายยังไม่สมบูรณ์ จึงควรใช้น้ำเกลือที่มีความเข้มข้นต่ำและให้ในปริมาณที่เหมาะสม ผู้สูงอายุ ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคไต หรือความดันโลหิตสูง ต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะเสี่ยงต่อภาวะน้ำคั่งในปอดและหัวใจล้มเหลว ผู้ป่วยโรคไตวาย หรือมีภาวะบวมน้ำ ควรหลีกเลี่ยงน้ำเกลือที่มีความเข้มข้นสูง เพราะอาจทำให้หัวใจทำงานหนักและเกิดภาวะปอดบวมน้ำ ผู้ป่วยที่มีประวัติแพ้สารประกอบในน้ำเกลือ ต้องแจ้งแพทย์ก่อนรับการรักษา หญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้น้ำเกลือ เนื่องจากโซเดียมคลอไรด์อาจส่งผลกระทบต่อลูกในครรภ์หรือทารก ผู้ป่วยที่รับยากลุ่มคอร์ติโคสเตียรอยด์ เพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงของผลข้างเคียงจากน้ำเกลือ การใช้น้ำเกลือต้องให้ในปริมาณและความเข้มข้นที่เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย และต้องระมัดระวังสัญญาณอันตรายที่อาจเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอาการบวม ปวด บวมแดง หรืออาการแพ้ต่าง ๆ โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยโรคหัวใจหรือไต การดูแลอย่างใกล้ชิดและการแจ้งแพทย์ทันทีเมื่อพบอาการผิดปกติ จะช่วยป้องกันผลข้างเคียงรุนแรงและเพิ่มความปลอดภัยในการรักษา   ข้อมูลอ้างอิง :  https://www.eucerin.co.th/about-skin/basic-skin-knowledge/saline https://www.intouchmedicare.com/sodium-hloride-solution-for-intravenous-iv-drip https://www.thaihealth.or.th/%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B8%AD-%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3/ https://hdmall.co.th/blog/c/saline-solution-types-and-uses/ https://www.bedee.com/articles/wellness/saline https://www.exta.co.th/saline/ https://kleanandkare.co.th/th/5-techniques-to-get-glowing-facial-skin/ https://vogue.co.th/beauty/treatment-lip-balm-gloss-and-moisture https://www.pptvhd36.com/health/news/2029
อ่านเพิ่มเติม