น้ำเกลือทางการแพทย์ถือเป็นหนึ่งในสารละลายพื้นฐานและสำคัญที่สุดที่ใช้ในวงการแพทย์มายาวนาน ด้วยคุณสมบัติที่ใกล้เคียงกับของเหลวในร่างกายมนุษย์ ทำให้น้ำเกลือมีบทบาทสำคัญในการรักษาและฟื้นฟูสมดุลของร่างกายในหลายภาวะ โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่มีภาวะขาดน้ำหรือสูญเสียเกลือแร่จากสาเหตุต่าง ๆ เช่น ท้องเสียรุนแรง อาเจียน หรือเสียเลือดจากอุบัติเหตุ
น้ำเกลือทางการแพทย์เป็นสารละลายที่มีส่วนประกอบหลัก คือโซเดียมคลอไรด์และน้ำ ซึ่งมีหลายประเภทที่ใช้ในสถานการณ์และวัตถุประสงค์ทางการแพทย์แตกต่างกัน โดยแต่ละชนิดมีคุณสมบัติและการใช้งานเฉพาะตัวที่ช่วยรักษาผู้ป่วยในภาวะต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม
Normal Saline Solution (NSS)
น้ำเกลือทางการแพทย์ NSS หรือน้ำเกลือธรรมดา เป็นสารละลายโซเดียมคลอไรด์ความเข้มข้น 0.9% หรือ 9 กรัมต่อลิตร สารละลายนี้มี osmolarity ประมาณ 308 mOsm/L ซึ่งใกล้เคียงกับพลาสมาในเลือด (285-295 mOsm/L) จึงเรียกว่าสารละลายไอโซโทนิก ใช้เป็นของเหลวทดแทนเมื่อผู้ป่วยขาดน้ำหรือมีภาวะเลือดจาง เช่น ในกรณีท้องเสียรุนแรง หรือภาวะขาดน้ำจากการผ่าตัด น้ำเกลือทางการแพทย์ชนิดนี้สามารถให้ทางหลอดเลือดดำเพื่อเพิ่มปริมาตรเลือดและรักษาสมดุลของเหลวในร่างกายได้อย่างปลอดภัย แต่หากให้มากเกินไปอาจทำให้เกิดภาวะบวมน้ำหรือกรดเมแทบอลิกได้ หรือจะใช้เจือจางยาสำหรับการให้ทางหลอดเลือดดำ และใช้ในการทำความสะอาดบาดแผลเนื่องจากไม่ทำลายเซลล์เนื้อเยื่อก็ได้
Ringer’s Lactate Solution (RL)
น้ำเกลือทางการแพทย์ที่มีส่วนผสมของเกลือแร่หลายชนิด เช่น โซเดียมคลอไรด์ โพแทสเซียม แคลเซียม และแลคเตต ซึ่งช่วยปรับสมดุลค่ากรดและเบสในร่างกายได้ดีขึ้นกว่าน้ำเกลือธรรมดา เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่สูญเสียของเหลวและแร่ธาตุเหล่านี้จำนวนมาก ทั้งจากการบาดเจ็บหรือผ่าตัดใหญ่ อีกเหตุผลหนึ่งคือการรักษาความสมดุลกรด-เบสในร่างกายเพราะ แลคเตตในสารละลายจะถูกเปลี่ยนเป็นไบคาร์บอเนตในร่างกาย ช่วยลดภาวะกรดเกินในร่างกายได้
Dextrose Solutions
สารละลายที่มีน้ำตาลเดกซ์โทรสผสมอยู่ในน้ำหรือในน้ำเกลือทางการแพทย์ โดยทั่วไปมีความเข้มข้น 5% ใช้เป็นแหล่งพลังงานสำหรับผู้ป่วยที่ไม่สามารถรับประทานอาหารได้ หรือมีภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ นอกจากนี้น้ำเกลือทางการแพทย์ชนิดนี้ยังใช้ร่วมกับน้ำเกลือธรรมดาในรูปแบบผสม เช่น 5% Dextrose in NSS เพื่อให้ทั้งพลังงานและเกลือแร่แก่ร่างกาย
Hypertonic และ Hypotonic Solutions
สารละลายไฮเปอร์โทนิกมีความเข้มข้นสูงของเกลือกว่าเลือด จึงดึงน้ำออกจากเซลล์เข้าสู่หลอดเลือด ทำให้ลดบวมน้ำในสมองหรือเพิ่มความดันเลือด ส่วนสารละลายไฮโปโทนิกมีความเข้มข้นต่ำของเกลือกว่าเลือด ทำให้น้ำเข้าเซลล์มากขึ้น เหมาะกับผู้ป่วยที่ขาดน้ำในเซลล์ แต่ต้องระวังการใช้เพราะอาจทำให้เซลล์บวมน้ำเกินไป
น้ำเกลือทางการแพทย์ปราศจากเชื้อ NSS ที่มีความเข้มข้น 0.9% เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับใช้ล้างแผล เนื่องจากเป็นสารละลายไอโซโทนิกที่มีความเข้มข้นสมดุลกับน้ำในเซลล์ร่างกาย จึงไม่ทำลายเซลล์เนื้อเยื่อใหม่ ไม่ก่อให้เกิดความแสบหรือระคายเคืองบริเวณแผล และยังช่วยชะล้างสิ่งปนเปื้อน แบคทีเรีย และเศษสิ่งสกปรกออกจากแผลได้อย่างปลอดภัย น้ำเกลือทางการแพทย์ชนิดนี้ผ่านกระบวนการฆ่าเชื้ออย่างเข้มงวด ทำให้มั่นใจได้ว่าไม่ก่อให้เกิดการติดเชื้อเมื่อใช้ล้างแผล โดยเฉพาะแผลบาดเจ็บทั่วไป แผลถลอก หรือแผลผ่าตัดที่ต้องการการดูแลอย่างอ่อนโยน
น้ำเกลือทางการแพทย์ที่ใช้ล้างจมูกและไซนัส ต้องเป็นน้ำเกลือ NSS ที่ปราศจากเชื้อ เพราะจะช่วยชะล้างสิ่งสกปรกและเมือกที่อุดตันในโพรงจมูก ทำให้บรรเทาอาการคัดจมูก ลดน้ำมูกไหล ลดการอักเสบของเยื่อบุโพรงจมูกและไซนัส และช่วยลดโอกาสการติดเชื้อในโพรงไซนัสได้อย่างมีประสิทธิภาพ การล้างจมูกด้วยน้ำเกลือทางการแพทย์จะช่วยให้ระบบทางเดินหายใจสะอาดขึ้นและทำงานได้ดีขึ้น ป้องกันการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ โดยไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองหรือแสบ
น้ำเกลือทางการแพทย์ปราศจากเชื้อนับเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ช่วยลดแบคทีเรียในช่องปาก ลดการอักเสบของเหงือกและเนื้อเยื่อในช่องปาก บรรเทาอาการเจ็บคอ บรรเทาอาการแผลในปาก และช่วยทำความสะอาดช่องปากโดยไม่ทำลายเนื้อเยื่ออ่อน น้ำเกลือทางการแพทย์ชนิดนี้ไม่ใส่วัตถุกันเสีย จึงเหมาะสำหรับผู้ที่แพ้สารเคมี และสามารถใช้ได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่ทำให้เกิดการระคายเคือง
น้ำเกลือทางการแพทย์ NSS ที่ปราศจากเชื้อ เป็นสารละลายที่เหมาะสมที่สุดสำหรับใช้ล้างตา เนื่องจากมีความเข้มข้นไอโซโทนิกที่สมดุลกับน้ำตา จึงไม่ทำให้เกิดการระคายเคืองหรือแสบตา ช่วยชะล้างสิ่งแปลกปลอม ฝุ่น หรือสารเคมีที่อาจเข้าตาได้อย่างปลอดภัย อย่างไรก็ตามควรใช้เฉพาะน้ำเกลือทางการแพทย์ปราศจากเชื้อที่ผ่านการฆ่าเชื้ออย่างถูกต้องเท่านั้น ไม่ควรใช้น้ำเกลือที่ไม่ได้ผ่านการฆ่าเชื้อหรือทำเอง เพราะอาจมีเชื้อโรคปนเปื้อนและก่อให้เกิดการติดเชื้อในตาได้
สรุป
น้ำเกลือทางการแพทย์เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยรักษาสมดุลของน้ำและเกลือแร่ในร่างกาย ฟื้นฟูพลังงาน และรองรับการรักษาอื่น ๆ ได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ซึ่งการเลือกใช้น้ำเกลือทางการแพทย์ให้เหมาะสมกับสภาวะของผู้ป่วยแต่ละราย ต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับคุณสมบัติ ข้อบ่งใช้ และข้อควรระวังของน้ำเกลือแต่ละประเภท ดังนั้นก่อนตัดสินใจเลือกใช้น้ำเกลือ จึงควรปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้ง เพื่อประสิทธิภาพและความปลอดภัยที่สุด
https://www.intouchmedicare.com/sodium-hloride-solution-for-intravenous-iv-drip
http://medinfo2.psu.ac.th/~webadm/rx/upload_rx_detail/RX_DETAIL_20171214_190557.pdf
https://hdmall.co.th/blog/c/saline-solution-types-and-uses/
https://health.kapook.com/view115081.html
https://www.bumrungrad.com/th/health-blog/august-2019/oral-rehydration-salt
https://mediprosupply.co.th/blog/detail/iv-set
https://www.bedee.com/articles/wellness/saline
https://www.anblab.com/2015/12/wound-irrigation-th/
https://www.exta.co.th/saline/
https://www.eucerin.co.th/about-skin/basic-skin-knowledge/saline